The Little Book of Investing Like the Pros ลงทุนหุ้นอย่างมืออาชีพ
มีหุ้นของบริษัทที่ซื้อขายเป็นหมื่นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งทั่วโลก แล้วคุณจะเริ่มจากตรงไหน การค้นหาไอเดียการลงทุนทำได้หลายแบบ แบบที่ง่ายที่สุดคือเริ่มจากการอ่านให้มาก ให้เลือกที่ได้มาตรฐานของอุตสาหกรรม เช่น บาร์รอนส์ บลูมเบิร์ก แกรนต์ส เดอะไฟแนนซ์เชียลไทม์ส และเดอะวอลสตรีทเจอร์นัล และค่อยต่อยอดจากตรงนี้ นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก
การค้นหาของคุณยังรวมถึงชีวิตประจำวันและสินค้าหรือบริการรอบตัวคุณ มีเรื่องราวของคนนับไม่ถ้วนที่พบไอเดียการลงทุนที่ยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการสังเกตชีวิตประจำวัน ผู้คนซื้ออะไร พวกเขาไปช้อปปิ้งที่ไหน หรือพวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน เว็บไซต์ไหนที่พวกเขาเข้าไปเยี่ยมชม
นักลงทุนหลายคนใช้แนวทางจากล่างขึ้นบน ซึ่งให้ความสำคัญกับพื้นฐานของบริษัทแต่ละบริษัท แหล่งความรู้ของการลงทุนที่ใช้กันทั่วไปภายใต้แนวทางจากล่างขึ้นบนนั้นเป็นที่แพร่หลายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น บริษัทที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง “บริษัทที่สะสมรายได้แบบทบต้นทบดอก” การปรับปรุงเชิงปฏิบัติการ และเรื่องราวของการฟื้นฟูธุรกิจ การซื้อและควบรวมกิจการ การแยกบริษัท การปรับโครงสร้าง และผลตอบแทนจากการลงทุน การประเมินโอกาสเหล่านี้ต้องใช้ความเข้าใจพื้นฐานของตัวขับเคลื่อนธุรกิจ การวิเคราะห์ทางการเงิน และการประเมินมูลค่า ไม่ต้องกังวลถ้าคุณไม่ได้จบจากโรงเรียนสอนธุรกิจ แนวทางการลงทุนแบบล่างขึ้นบนคือสิ่งที่หนังสือ “ลงทุนหุ้นอย่างมืออาชีพ” มุ่งเน้นเป็นอันดับแรก และเราช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณได้ในบทถัดไป
นักลงทุนบางคนใช้แนวทางจากบนลงล่างโดยหาโอกาสจากมหภาคและประเด็นสำคัญในระยะยาว ทิศทางเหล่านี้ถูกคาดหวังให้เร่งการเติบโตของรายได้และการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของบางอุตสาหกรรม กลยุทธ์มหภาคแบบบนลงล่างที่สำคัญเกี่ยวข้องกับทิศทางตลาดของโลกและวัฏจักรธุรกิจ รวมถึงการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ ประเด็นสำคัญในระยะยาวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภค อัตราการใช้สินค้า และประชากรศาสตร์ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
นักลงทุนที่มีประสบการณ์มีแนวโน้มที่จะใช้ส่วนประกอบจากทั้งแนวทางแบบล่างขึ้นบนและแบบบนลงล่างร่วมกัน แม้กระทั่งนักลงทุนที่เน้นปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ยังปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมระดับมหภาคได้อย่างดี ความเข้าใจว่าเหตุการณ์หนึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อหุ้นแต่ละตัวเป็นเรื่องที่สำคัญ มีคำพูดที่ว่า “ถ้าคุณไม่ใส่ใจมหภาค มันจะเล่นงานคุณ”
กระบวนการสร้างไอเดียต้องอาศัยความอดทนและวินัยอย่างสูง คุณอาจจะต้องศึกษาบริษัทเป็นร้อยบริษัทก่อนจะเห็นโอกาสที่มีศักยภาพสูง ดังนั้น มันจำเป็นต้องรู้ว่าจะต้องไปมองหาที่ไหน และมองหาอะไร
ในขณะที่บางเทคนิคสามารถพบได้บ่อย นักลงทุนแต่ละคนพัฒนาสไตล์ที่ต่างกันจากความแตกต่างเฉพาะตัวเล็กน้อย ธรรมชาติของการลงทุนพึ่งพาประสบการณ์ หมายถึง นักลงทุนอาชีพมีแนวโน้มที่จะปรับเทคนิคการสร้างไอเดียเมื่อเวลาผ่านไป แม้กระทั่งนักลงทุนอาชีพที่ได้รับการฝึกฝนก็ยังต้องพัฒนาและปรับตัวไปกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ต้องมีการเพิ่มระฆังและนกหวีดจำนวนมากระหว่างทาง