DKTODAY หนังสือ ฌอร์ฌส์ ดูอาเมล : คำสารภาพยามเที่ยงคืน แดนใจ MADMAN BOOKS
ฌอร์ฌส์ ดูอาเมล : คำสารภาพยามเที่ยงคืน แดนใจ
(GEORGES DUHAMEL : CONFESSION DE MINUIT & LE REGNE DU COEUR)
ISBN.1422000017007
MADMAN BOOKS
เขียน : ฌอร์ฌส์ ดูอาเมล [GEORGES DUHAMEL]
ฌอง ชีโอโน :คนปลูกต้นไม้ เพาะความหวัง เกี่ยวความสุข
JEAN GIONO :L’HOMME QUI PLANTAIT DES ARBRES
เขียน : ฌอง ชีโอโน [JEAN GIONO]
แปล : วิภาดา กิตติโกวิท
บทนำ : โคทม อารียา
ปกแข็ง สันตรง เย็บกี่ ไสกาว ติดริบบิ้น
เมื่อผมคิดถึงปี 1915 ผมยังเหมือนได้ยินเหล่าสหายผู้กล้าเหล่านั้นพูดกับผมด้วยความสลดห่อเหี่ยวว่า “ผมคิดอะไรอื่นไม่ได้เลย! ผมอ่านไม่ได้ ทำงานไม่ได้ หรือหาทางหันเหตัวเองไปยังวัตถุประสงค์อื่นใด เมื่อผมได้หยุดงาน ผมจะคิดเกี่ยวกับวันเหล่านั้น ผมคิดเกี่ยวกับมันไม่หยุด จนรู้สึกเมาคลื่น วิงเวียน ผมเพิ่งมีชั่วโมงว่างสองชั่วโมง ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมจะยกมันให้ปาสกาลหรือตอลสตอย วันนี้ผมใช้มันอ่านงานเอกสารเกี่ยวกับการผลิตตอร์ปิโดและวิธีล่าอาณานิคมของยุโรป มันเป็นเรื่องซึ่งอยู่นอกแนวของผมตลอดมา เรื่องที่ผมจะไม่มีวันสนใจ แต่ผมจะคิดเรื่องอื่นได้อย่างไร?”
บางทีมันไม่ใช่ปัญหาของการคิดเรื่องอื่น มันไม่ใช่ปัญหาของการหันหลังให้กับยุคสมัย แต่ค่อนไปทางการมองมันซึ่งหน้า อย่างสงบและมีสติ
เมื่อความตื่นเต้นใหญ่ครั้งแรกผ่านไป เหล่าผู้มีปัญญาและความกล้าหันกลับสู่ตนเองอย่างขันแข็ง และได้พบชีวิตด้านในของตนสูงส่งขึ้น ขยายกว้างขึ้น รุ่มรวยขึ้น เพราะมันไม่ได้หยุดทำงานหนักในส่วนลึกของเรา มันเป็นตัวเราเองและบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือตัวเราเองไปพร้อมกัน เช่นเดียวกับอวัยวะบางอย่างของเรา ที่ได้รับความเป็นอิสระอันน่าทึ่งมาโดยธรรมชาติและคอยเฝ้าระวังระหว่างความวิตกว้าวุ่นและการหลับของเรา ชีวิตด้านในก็ให้ดอกให้ผลทั้งที่เราเต็มไปด้วยความไม่รู้คุณและไม่แยแสต่อมัน มันเป็นคู่ชีวิตที่จงรักผู้ดูแลบ้านจนผุดผ่องแจ่มใส จัดการทุกความสุขสบายและทำทุกอย่างหลังประตู คอยการกลับของเรา
แล้วดูเถิด เรากำลังกลับมา !
แน่นอน พายุยังพัดกระหน่ำ มันแรงขึ้น เกรี้ยวกราดมากขึ้น ไม่จบไม่สิ้นยิ่งขึ้น มันไม่เคยซับซ้อนกว่านี้ รุนแรงกว่านี้ สร้างความเดือดร้อนมากกว่า ภยันตรายมาอยู่กับเรา ความเห็นทุกประเภทเชิดหัวและเรียกร้องความเชื่อของเราอย่างดุเดือด
แต่เราได้พบกุญแจและเส้นทางสู่ที่ลี้ภัยลับอีกครั้ง เวลานี้ไม่มีอะไรหันเหเราได้อีก ไม่มีสิ่งใดสามารถกีดกันเรา ณ โมงยามที่แน่นอนไม่ให้เราโถมเข้าสู่การอยู่โดยลำพัง เพื่อพบความสมดุล ความกลมกลืน และความรุ่มรวยทางศีลธรรมซึ่งเรารู้จักในที่นั้นอีกครั้ง หลังจากการพังครืนลงของสิ่งต่างๆ มากมายเพียงนี้ ที่นั่นเท่านั้นที่ให้ผล ที่คงทน
นานหลายเดือนมาแล้วที่ผมได้เข้าใจ จากการเฝ้าดูคนที่ผมอยู่ด้วย ว่าพวกเขากำลังรอคอยถ้อยคำแห่งความสงบเยือกเย็น ถ้อยคำแห่งการพักและความรัก พวกเขาจะเป็นเหมือนผืนดินแห้งผากปลายฤดูร้อนที่แผดเผา : โหยหาการดับกระหายและเขียวชอุ่มขึ้นอีกครั้ง
แม้ความหายนะ ความไร้ระเบียบ และความตายจะพยายามทำลายการสนทนาอันละเอียดอ่อนและคุ้นเคยซึ่งทุกชีวิตพยายามทำกับส่วนที่ดีกว่าของตนก็ไม่เกิดผล การสนทนาฟื้นคืน มันเริ่มขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางใจกลางของสงคราม ท่ามกลางกลิ่นและเสียงครางของโรงพยาบาล หน้าที่ถูกให้น้ำหนักและบรรลุผลอย่างเหมาะสม วิญญาณก็เพียงไม่เต็มใจที่จะละทิ้งการใคร่ครวญของมันต่อสิ่งที่ลึกซึ้ง ที่ไม่เสื่อมสลายและที่ไม่ใช่วัตถุในปัจจุบันอีกต่อไป บอกผมว่าเรากำลังจะลงแรงร่วมกันอีกครั้งในการสำรวจหาสินทรัพย์ด้านในของเรา บอกผมว่าเรากำลังจะลงแรงเพื่อกอบกู้ส่วนนั้นของเราจากการอับปาง ส่วนที่แม้จะด้วยความผิดพลาด ความไม่แน่นอน อาชญากรรม และความผิดหวังทั้งปวงของเรา จะยังคงความสูงส่งและควรค่าในนิรันดรภาพอย่างแท้จริง
ผมสามารถเขียนความเรียงชิ้นนี้ก็ด้วยบางขณะที่มีเวลาว่างซึ่งสงครามเต็มใจให้แก่ผม มันไม่ใช่ผลของการใคร่ครวญในความโดดเดี่ยวล้วนๆ ผมไม่ได้อยู่คนเดียว สหายที่ผมได้เลือกแวดล้อมผม พวกเขาร่วมกับผมในพื้นที่อันสับสนอลหม่านของที่พักของเรา เราแบ่งปันความคิดทั้งหมดที่เติมเต็มพื้นที่นี้ด้วยกันมิตรภาพได้บรรลุปาฏิหาริย์ในการแปรโฉมสิ่งที่จะคงเป็นความสับสนแตกแยกเป็นการร่วมกัน ซึ่งจะไม่เกิดหากปราศจากมัน
ผมมีความรู้สึกว่าผมได้แสดงความปรารถนาและความคิดของคนจำนวนมาก ในไม่ช้า คนที่อยู่ที่นี่จะเข้านอน ผมจะเขียนต่อ แต่ด้วยความมั่นใจลับๆ ว่าไม่ได้โดดเดี่ยวในภารกิจ