เมล็ดมะเขือเทศลูกแพร์ แดง/เหลือง Pear Tomato 100-200 เมล็ด ***ศึกษาวิธีการเพาะได้ในรายละเอียดสินค้า***
เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศลูกแพร์ Pear Tomato (Original)
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกคือ 16-28 ̊C
อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตคือ15-28 ̊C (กลางวัน) 15-28 ̊C(กลางคืน)
***มะเขือเทศแดง Pear Tomato Red*** สายพันธุ์ OP
จำนวน 100 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 10- 20 กรัม/ผล
วันที่ผลิต : ม.ค. 2023 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์เบา ผลรูปแพร์ สีสวย รสชาติดีมาก ผลไม่แตกง่าย เหมาะสำหรับบริโภคเป็นผลไม้ 7-8ผล/ช่อ ความหวาน10.6บริส ไว้กิ่งหลัก2กิ่ง จัดแต่งกิ่ง
***มะเขือเทศแดง Pear Tomato Red*** สายพันธุ์ OP
จำนวน 150-200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 20 กรัม/ผล
วันที่ผลิต : พ.ย. 2022 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์เบา ผลรูปแพร์ สีสวย รสชาติดีมาก ผลไม่แตกง่าย เหมาะสำหรับบริโภคเป็นผลไม้ 20-40ผล/ช่อ ความหวาน10.6บริส ไว้กิ่งหลัก2กิ่ง จัดแต่งกิ่ง ให้ผลผลิต 500ผล/กิ่ง ระยะในการปลูก 70*30ซม.
***มะเขือเทศสีเหลือง Pear Tomato Yellow *** สายพันธุ์ OP
จำนวน 150-200 เมล็ด
อัตรางอก : 85%
แสงแดด : เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน / ร่วนปนทราย
น้ำหนักผล : 20 กรัม/ผล
วันที่ผลิต : พ.ย. 2022 (อายุเก็บรักษา 36 เดือน)
ลักษณะประจำพันธุ์:
เป็นสายพันธุ์เบา ผลรูปแพร์ เมื่อผลสุก ผลสีเหลืองทอง เนื้อแน่น กรอบ ความหวาน10.6บริกขึ้นไป รสชาติดีมาก ผลไม่แตกง่าย เหมาะสำหรับบริโภคเป็นผลไม้ ลำต้นสูง กิ่งก้านใหญ่และแข็งแรง ต้านทานโรค ติดผลดก 20-40ผล/ช่อผล การตัดแต่งกิ่ง ให้ไว้กิ่งหลัก2กิ่ง ให้ผลผลิตประมาณ500ผล/กิ่ง.
จากการวิจัยของนักโภชนาการพบว่าการบริโภคมะเขือเทศสดวันละ 50 กรัม -100 กรัมต่อคน สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายมนุษย์สำหรับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มะเขือเทศมีสาร ไลโคปีน ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งแบคทีเรียกรดมาลิกกรดซิตริกและน้ำตาลที่มีอยู่สามารถช่วยในการย่อยอาหาร มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารอาหารและมีหน้าที่มากมายซึ่งเรียกว่าผลไม้แห่งจานวิเศษ กรดอินทรีย์เช่นกรดมาลิกและกรดซิตริกในมะเขือเทศยังเพิ่มความเป็นกรดของน้ำย่อยช่วยย่อยอาหารและปรับการทำงานของระบบทางเดินอาหาร มะเขือเทศมีกรดผลไม้ซึ่งสามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาวะไขมันในเลือดสูง มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอวิตามินซีวิตามินบีวิตามินบีแคโรทีนแคลเซียมฟอสฟอรัสโพแทสเซียมแมกนีเซียมเหล็กสังกะสีทองแดงและไอโอดีนนอกจากนี้ยังมีโปรตีน้ำตาลกรดอินทรีย์และเซลลูโลส
วิธีการเพาะกล้า
1. การบ่มเมล็ด : นำเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ แช่ในน้ำอุ่น 50 องศา ผสมน้ำยาเร่งรากแบบเจือจางและเชื้อราไตรโคเดอร์มา (ป้องกันโรคจากเชื้อรา) แช่ทิ่งไว้ 30นาที นำเมล็ด (ไม่ควรวางหนาแน่นเกินไป) มาวางในกระดาษเพาะกล้าหรือผ้าขาวบางชุบน้ำมาดๆ แล้วจึงห่อเมล็ดห่อกระดาษเพาะเมล็ดอีกครั้งด้วยถุงพลาสติกใสหรือถุงใส่แกง เก็บในที่อุณหภูมิ 28- 30 องศาเซลเซียส โดยใส่ในภาชนะที่มิดชิด เช่น กระติกน้ำเพื่อรักษาอุณหภูมิ นานประมาณ 24 ชั่วโมง
2. การเพาะกล้า : บรรจุวัสดุเพาะกล้า (พีทมอส) ลงในถาดเพาะกล้าขนาด 104 หลุม ไม่แน่นเกินไป รดน้ำให้ชุ่ม นำเมล็ดจากข้อ 1.3 มาหยอดลงในถาดเพาะโดยวางให้เมล็ดอยู่ในแนวนอนทำมุมประมาณ 45 องศา และปลายรากแทงลงวัสดุเพาะ ระวังอย่าให้รากอ่อนของเมล็ดหักหรือแห้ง กลบด้วยวัสดุเพาะกล้า แล้วกดทับเบาๆ รดน้ำให้ชุ่ม นำไปเก็บในโรงเรือนเพาะกล้า หรือบริเวณที่มีแสงแดด รดน้ำทุกวัน เพื่อให้วัสดุเพาะกล้าชุ่มอยู่เสมอ จนอายุกล้าได้ 25-30 วัน
3. การย้ายกล้า : ควรย้ายกล้าเมื่อมีใบแท้ 4-5 ใบ หรืออายุไม่เกิน 25-30 วัน หลังจากหยอดเมล็ด