เมล็ดชิโนซะเขียว บรรจุ300เมล็ด
ชิโสะ หรือ โอบะ เป็นพืชล้มลุกในกลุ่มเดียวกับ มีถิ่นกำเนิดในเอเซียตะวันออก (ญี่ปุ่น เกาหลี ภาคตะวันออกของจีน)
ลักษณะใบกลม ปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ใบมีกลิ่นหอม (คล้ายใบมิ้น) นิยมนำส่วนใบและเมล็ดมารับประทานอาหารกับพวกเนื้อสัตว์
ชิโสะ ได้นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมาโดยเริ่มนำมาปลูกครั้งแรกที่เชียงใหม่ ชิโซะเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศ ชอบดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบน้ำขัง
วิธีเพาะและปลูก
1.แช่เมล็ดในน้ำอุ่น8-12ชั่วโมง
2.เพาะเมล็ดในถาดหลุมๆละ1เมล็ด กลบด้วยวัสดุบางๆ เสปรย์น้ำให้ชุ่ม คลุมด้วยกระดาษหรือถุง
3.รอ10-14วัน เมล็ดจะงอก อนุบาลต่ออีก14วัน จึงย้ายลงปลูกได้
4.ถ้าปลูกลงกระถาง ให้ใช้ขนาด8นิ้วขึ้นไป
5.ใส่ปุ๋ย15-15-15 อาทิตย์ละครั้ง
หรือปุ๋ย AB อัตราส่วน3ซีซีต่อน้ำ1ลิตร
6.ตัดแต่งกิ่งใบที่ติดดินออก
ประโยชน์
เป็นพืชที่มีกลิ่นหอมฉุนนิยมเสิร์ฟพร้อมกับปลาดิบในเมนูอาหารญี่ปุ่น นอกจากจะทำให้ปลาดิบดูน่าทานมากขึ้นแล้ว ใบโอบะยังสามารถทานได้ด้วยซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการที่ให้วิตามินเอ บี ซี และกลิ่นเฉพาะนี้เองที่ช่วยดับคาวของอาหารทะเลได้
การปลูกควรปลูกที่มีแสลนพลางแสงอย่างน้อยประมาณ 50% ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 50 - 60 ซม.
การเพาะเมล็ดชิโสะ แนะนำให้นำเมล็ดไปแช่ในน้ำอุ่นก่อนประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง แล้วนำเมล็ดมาหยอดในถาดหลุมๆ ละ 1 เมล็ดกลบวัสดุบางๆ เสปรย์น้ำให้พอชุ่ม แต่อย่าแฉะเกินไป คลุมด้วยกระดาษหรือถุงพลาสติก เมล็ดชิโซะจะใช้ระยะเวลาในการงอกประมาณ 10 - 14 วัน เมื่อเมล็ดงอกเป็นต้นเกล้าก็ให้อนุบาลในถาดหลุมต่อประมาณ 14 วัน ก็ สามารถย้ายลงปลูกได้ ถ้าต้องการปลูกในกระถางก็ให้ใช้กระถางขนาด 8 นิ้วขึ้นไป
การให้ปุ๋ย แนะนำให้ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 สัปดาห์ละครั้ง หรือใช้ปุ๋ย AB สูตรปกติสำหรับพืชทานใบ อัตราส่วน 3 ซีซี/น้ำ 1 ลิตร สัปดาห์ละ 1 ครั้งเช่นกัน การตัดแต่งกิ่งและใบควรริดกิ่งหรือใบที่อยู่ต่ำติดกับดิน หรือใบที่ซ่อนด้านในที่ไม่โดนแสง เพื่อให้ทรงพุ่มระบายอากาศได้ดีเป็นการป้องกันโรคและแมลงที่อาจมารบกวนได้