หนังสือ รหัสลัดอัจฉริยะ (The Talent Code)
International Bestseller
เมื่อพูดถึง อัจฉริยะ
หลายคนคงนึกถึงคนเก่งชนิดหนึ่งในล้าน
คนที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์
คนที่ไม่มีทางสร้างขึ้นมาได้...
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเช่นนั้น...
คุณกำลังคิดผิดถนัด!
หนังสือ รหัสลัดอัจฉริยะ (The Talent Code)
ไม่ต้องมองหา กุญเเจสู่ความเป็นอัจฉริยะ จากที่ไหน ในเมื่อมันอยู่ใกล้เเสนใกล้ ภายในตัวคุณเอง
ผู้เขียน Daniel Coyle
ผู้แปล วิโรจน์ ภัทรทีปกร พรเลิศ อิฐฐ์
ราคา 230.-
แดเนียล คอยล์ นักเขียนชื่อดัง ได้ออกเดินทางสำรวจความลับเบื้องหลังอัจฉริยะในหลากหลายวงการ ตั้งแต่ดนตรี ศิลปะ กีฬา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงธุรกิจ และพบว่ามันไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์หรือพันธุกรรม แต่เป็นผลลัพธ์จากปัจจัยเพียง 3 อย่าง ที่ประกอบขึ้นเป็น สูตรสำเร็จ สำหรับปั้นคนเก่งระดับโลกต่างหาก ซึ่งถ้าทำได้ตามนั้น ไม่ว่าใครก็กลายเป็นอัจฉริยะได้ หลังจากอ่านจบ คุณจะพบว่า กุญแจ ที่บรรดาอัจฉริยะ ใช้ไขประตูไปสู่ความยิ่งใหญ่นั้น แท้จริงแล้วอยู่ในมือคุณมาตลอด
แดเนียล คอยล์ ได้เล่าถึงงานวิจัยของอีริคสันที่บอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนั้นล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ล้ำลึก สม่ำเสมอมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10000 ชั่วโมงทั้งสิ้น เขาพบว่าไมอีลินเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้สามารถทำในสิ่งที่แตกต่างหรือเก่งกว่าคนทั่วไป เดิมทีนั้นเราเชื่อว่าใครที่มีเซลล์สมองมากกว่าจะเก่งและฉลาดกว่า งานวิจัยทางประสาทวิทยาเมื่อไม่นานนี้มันไม่บอกบอกแบบนั้น ไมอีลินเปรียบเหมือนฉนวนห่อหุ้มใยประสาท ยิ่งถ้ามีไมอีลินห่อหุ้มมากขึ้นก็เหมือนคุณมีสายส่ง Network ขนาดใหญ่ นั่นหมายความว่าคุณจะส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำนั่นเอง
การฝึกฝนอย่างล้ำลึกจะทำให้ใยประสาทส่วนนั้นมีไมอีลินมาห่อหุ้มมากขึ้น และเราสามารถฝึกฝนอย่างล้ำลึกได้โดยใช้กฎ 3 ข้อคือ
การรวมหน่วย – ทำให้รู้จักภาพรวมทั้งหมด แล้วแยกทักษะออกเป็นหน่วยเล็กๆ จากนั้นก็ทำทำช้าช้าโดยใส่ใจกับความผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
ทำซ้ำ – มันคือการฝึกฝนแต่การฝึกที่มากเกินไปก็อาจจะไม่ได้ผลดีที่สุดเสมอไป ที่ดีที่สุดคือเราต้องหาจุดกลมกล่อมของเราให้เจอ
ลับคมประสาทสัมผัส – ถ้าอยากหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด เราต้องฝึกประสาทสัมผัสให้รู้สึกถึงมันได้ในทันทีเสียก่อน
และการที่จะทำให้ใครสักคนนึงสามารถฝึกอย่างล้ำลึกได้ต่อเนื่องยาวนานไม่ต่ำกว่า 10000 ชั่วโมงนั้น มันจะต้องมีองค์ประกอบอีกอันที่เราเรียกมันว่า “สิ่งเร้า” ที่ช่วยเป็นแรงผลักสำคัญไม่ว่าจะเป็น การที่เขาอยากที่จะเป็นแบบไอดอลของเขา การตื่นตัวเมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคง หรือแม้แต่คำพูดที่ให้ความสำคัญกับความพยายาม นอกจากนั้นแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่าง คือ การสอนจากปรมาจารย์
คอยล์ชี้ให้เห็นว่าการฝึกสอนจากปรมาจารย์แต่ละคนล้วนแต่มีแบบแผนช่วยให้ร่างกายได้ฝึกฝนและสร้างไมอีลินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสอนของฮันส์ เจนเซน ครูสอนเชลโลที่เก่งที่สุดในโลก หรือวูดเดน ยอดโค้ชของ UCLA
สิ่งที่เจนเซนและวูดเดนทำ คือ เขาอ่านลูกศิษย์ของเขาได้ขาดว่ามีปัญหาเรื่องอะไร และให้คำแนะนำตรงๆ อย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนั้น วูดเดนบอกกับลูกทีมเขาว่า พวกเจ้าแตกต่างกัน รูปร่าง ความคิด ภูมิหลัง ทักษะ ก็ไม่เหมือนกัน พวกเจ้าก็ควรจะได้รับคำแนะนำ คำสอน ความใส่ใจที่แตกต่างกัน ทั้งทีก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกคน เวลาที่วูดเดนโค้ช วูดเดนใช้คำพูดสั้นๆ ที่เฉพาะเจาะจง สาธิตให้ดูว่าที่ถูกต้องคืออะไร ที่ผิดคืออะไร และควรต้องปรับปรุงยังไง
อัจฉริยะทุกคน ล้วนถูกฝึกฝน เคี่ยวกรำกันอย่างหนัก …. ไม่ได้เก่งกันมาตั้งแต่เกิดสักหน่อย … และก็ไม่มีทางลัดซะด้วย
สารบัญ
องค์ประกอบที่ 1 : การฝึกฝนอย่างล้ำลึก
- บทที่ 1 จุดกลมกล่อม
- บทที่ 2 เซลล์เเห่งการฝึกฝนอย่างล้ำลึก
- บทที่ 3 พี่น้องบรองเต ทีมซี-บอยส์ เเละยุคเรอเนสซองซ์
ฯลฯ
องค์ประกอบที่ 2 : การจุดประกาย
- บทที่ 5 สิ่งเร้า
- บทที่ 6 สิ่งเร้าในคูราเซา
- บทที่ 7 โรงเรียนเเห่งการจุดประกาย
องค์ประกอบที่ 3 : การฝึกสอนระดับปมาจารย์
- บทที่ 8 ผู้ฟูมฟักความเก่งกาจ
- บทที่ 9 ทักษะการสอน
- บทที่ 10 ทอม มาร์ติเนซ กับเดิมพัน 60 ล้านดอลลาร์
#ต้องมีหนังสือที่ใช่สำหรับเราในช่วงเวลาหนึ่ง
#sirinunjen
#ตามหาหนังสือเล่มไหนให้ถามไก่