วัวธนูมหารวย รุ่นแรก อ.เสี่ย มนัส สิวาภิรมย์รัตน์

วัวธนูมหารวย รุ่นแรก อ.เสี่ย มนัส สิวาภิรมย์รัตน์

การสร้างวัวธนูแตกต่างจากควายธนู คือ
โดยวัวธนูนั้นมีไว้เพื่อเรียกโชคลาภและคุ้มครองป้องกันบ้านเรือน ซึ่งแตกต่างจากควายธนูที่มีไว้กำราบศัตรู วัวธนูนั้นการเลี้ยงไม่ได้มีอันตรายใดๆ ซึ่งแตกต่างจากควายธนูถ้าเลี้ยงไม่ดีควายธนูจะทำร้ายผู้ที่เลี้ยงวัวธนูนั้น

วัวธนูเป็นวิชาที่มีกันมาหลายสำนักแต่โบราณกาล โดยเฉพาะจังหวัดนครปฐม อาทิเช่น สำนักวัดดอนยายหอม วัดศรีษะทอง เป็นต้น

โดยท่านอาจารย์มนัส สิวาภิรมย์รัตน์ ร่ำเรียนมาทั้ง 2 สำนัก คือ

๑.#สายหลวงพ่อน้อย #วัดศรีษะทอง ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางแก้ว สำนักนี้จะใช้ครั่งพุทรามาทำการสร้างวัวธนู การสร้างจะขึ้นโครงลวดแล้วใช้ครั่งพุทราลนไฟแล้วใช้แปะกับโครงเพื่อขึ้นรูปมาเป็นวัวธนู จากนั้นจะทำการปลุกเสกโดยเรียกอาการ 32 ขันธ์ 5 ธาตุ 4 และเรียกดวงจิตดวงวิญญาณของวัวให้มาสถิตในยังวัวธนู ในตำราโบราณดั้งเดิมยังมีคาถาสร้างคอกวัวและมีคาถาในการที่จะเปิดปิดคอกของวัวรวมถึงการที่จะเสกหญ้า น้ำ ให้วัวธนูกินรวมทั้งมีคาถาปลุกและคาถาใช้วัวธนูให้คุ้มครองบ้านอีกด้วย ซึ่งวิธีการเหล่านี้ค่อนข้างยุ่งยากในยุคสมัยนี้ที่เป็นยุคดิจิตอลที่มีความเร่งรีบในการทำมาหากิน

๒.#สายหลวงพ่อเงิน #วัดดอนยายหอม การทำวัวธนูต้องไปพลีดินจากพระแม่ธรณี จากนั้นก็มาขึ้นโครงลวด แล้วก็ค่อยๆใช้ดินที่พลีมาพร้อมท่องคาถาในการที่จะเอาดินแปะที่ลวด จากนั้นจึงนำวัวธนูที่ได้มาเผาไฟ พร้อมทั้งประจุธาตุไฟลงให้ครบ 4 ธาตุ คือ
ธาตุดิน ที่พลีกรรมมาจากพระแม่ธรณี
ธาตุน้ำ ใช้ผสมดินขณะนวดดิน
ธาตุไฟ ใช้ขณะเผาดินที่ปั้นให้ดินคงตัว
ธาตุลม คาถาที่ใช้ในการปลุกเสกและใช้ลมเป่าลงไปประจุในวัวธนู
จากนั้นจะต้องให้ผู้มีจิตสมาธิมั่นในการที่เรียกอาการ 12 ขันธ์ 5 พร้อมทั้งดวงจิตดวงวิญญาณของวัวมาสถิตในวัวธนู และมีการเสกคาถากำกับเฉพาะสำนักให้วัวธนูสามารถที่จะใช้งานได้ และถ้าวัวขนาดตัวใหญ่จะต้องมีการใช้คาถาเสกหญ้าและน้ำให้กินเพื่อใช้คุ้มครองบ้าน

โดยในปัจจุบันนี้การดำเนินชีวิตของคนปัจจุบันได้เปลี่ยนไป จะมากระทำดังกล่าวย่อมไม่เหมาะกับการอาศัยอยู่หรือการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันซึ่งมีความรีบเร่ง ดังนั้นท่านอาจารย์มนัส สิวาภิรมย์รัตน์ จึงได้สร้างวัวธนู #ขนาดเล็กเท่ากับเหรียญบาท โดยใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาประจุลงไปวัวธนู ต้องใช้วิชาธรรมกายซ้อนลงไปในวัวธนูให้มีฤทธิ์มากขึ้น โดยที่ผู้ใช้นำไปใช้ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับตัวผู้ที่พกติดตัว โดยเป็นวัวกายสิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวสามารถที่จะอธิษฐานขอความคุ้มครองหรือช่วยอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา

โดยการที่ท่านอาจารย์มนัสสิวาภิรมย์รัตน์จะสร้างวัวโลหะนี้ได้เขียนแผ่นยันต์อักขระเลขยันต์ลงไปหลอมเพื่อทำเป็นชนวนในการสร้างวัวธนูดังนี้

1. #ยันต์โสฬสมหามงคล ตำรับวัดสะพานสูง  สุดยอดจักรพรรดิ์เครื่องรางอันดับหนึ่งของเมืองไทย พุทธคุณอยู่ยงคงกะพันแคล้วคลาด
2.#ยันต์มหาจักรพรรดิตราธิราช ตำรับวัดประดู่โรงธรรม จ.อยุธยา เป็นการอัญเชิญแก้ว 7 ประการ ของพระมหาจักรพรรดิมาสถิตในพระยันต์นี้ คือ จักร (ลูกล้อรถ) แก้ว (จักรรัตนะ) ช้างแก้ว (หัตถิรัตนะ) ม้าแก้ว (อัสสรัตนะ) แก้วมณี (มณีรัตนะ) นางแก้ว (อิตถีรัตนะ) ขุนคลังแก้ว (คหปติรัตนะ) ขุนพลแก้ว (ปรินายกรัตนะ)
3.ยันต์สัมพุทเธหงสา การอัญเชิญพระพุทธเจ้าจำนวน 3584192 พระองค์ มาสถิตในพระยันต์นี้
4.#ยันต์อิติปิโสหูช้าง พระยันต์โชคลาภตามตำรับของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
5.#ยันต์มหาบุรุษ8จําพวก เป็นพระยันต์ที่ครูบาศรีวิชัยได้ฝังไว้ในการพระธาตุดอยสุเทพ
6.#ยันต์ตารางเพชร ตำรับวัดปากคลอง ป้องกันระงับคุ้มภัยจากสิ่งชั่วร้าย
7.#ยันต์เกราะเพชร ตำรับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ป้องกันคุณไสยและอวิชา
8.#ยันต์ครอบจักรวาล ตำรับหลวงพ่อพุฒ วัดเขาไม้แดง ใช้ได้ครอบจักรวาลแล้วแต่จะอธิษฐาน
9.#ยันต์มหาระงับ ตำรับวัดประดู่โรงธรรม ระงับสิ่งชั่วร้าย เช่น โจรภัยอัคคีภัย เป็นต้น
10.#ฉนวนเก่า ที่ครูบาอาจารย์ท่านได้มอบให้ระหว่างที่ท่านไปร่ำเรียนวิชามา


อีกทั้งท่านได้นำตุ๊กแกที่หล่อสำเร็จมาแล้ว มาอุดผงด้วยมวลสารที่สำคัญคือ
1.#ผงอิทธิเจ หลวงปู่สีวัดถ้ำบุญนาค เน้นไปทางเมตตาเสน่ห์
2.#ผงมหาราช วัดปากน้ำภาษีเจริญ เน้นทางเมตตามหานิยม

#การใช้ พกติดตัว ไว้คุ้มครองป้องกันหรือเรียกโชคลาภตามแต่จะปรารถนาและอธิษฐาน

#ขนาด เท่ากับเหรียญบาท

#บูชา
ทองแดง 500
อัลปาก้า 600