มินท์-Mint [150-200เมล็ด/ซอง] 🔥โปรโมชั่น [ซื้อ 2แถม 1ซอง]
มินท์-Mint [150-200เมล็ด/ซอง] 🔥โปรโมชั่น [ซื้อ 2แถม 1ซอง]
พืชตระกูลมินต์มีหลายชนิด บางชนิดมีลักษณะเลื้อย ใบของมินต์มีกลิ่นหอม ดอกมีสีขาวไปถึงม่วง ใช้เป็นสมุนไพร ทำชาสมุนไพร หรือทำน้ำมันหอมระเหย และแม้มินต์จะชอบแสงแดดแบบเต็มวัน แต่ก็สามารถปลูกในที่ร่มได้ เช่นการนำมาปลูกในกระถาง
เพียงแต่เลือกวางในจุดที่ได้รับแสงแดด เช่น ตามแนวระเบียง หรือวางริมหน้าต่าง อุณหภูมิในการปลูกมินต์ควรอยู่ที่ 18-21 องศาเซลเซียสในตอนกลางวัน และ 13-15 องศาเซลเซียสในตอนกลางคืน เป็นพืชที่ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดีน้ำไม่ท่วมขัง ในการเพาะพันธุ์ต้นกล้า เนื่องจาก มินต์ส่วนใหญ่จะมีเมล็ดขนาดเล็ก ฉะนั้นควรเตรียมดินสำหรับเพาะในถาดเพาะลึกเพียงประมาณ 2-3 นิ้ว แล้วรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นหว่านเมล็ดลงไป โดยไม่ต้องกลบหน้า ดินแล้วสเปรย์น้ำเบา ๆ บางสายพันธุ์เช่น แคทมินต์ เลม่อนมินต์ที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ ก็ควรกลบเมล็ดให้หนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร แล้วใช้พลาสติกคลุมรักษาความชื้น จากนั้นคอยดูแลให้มีความชื้นอยู่เสมอ เมล็ดก็จะเริ่มงอกประมาณ 7-14 วัน หลังจากนั้น การปลูกแบบปักชำก็สามารถทำได้ไม่ยากด้วยการตัดกิ่งมินต์ให้มีความยาวประมาณ 6 นิ้วจากถาดเพาะต้นกล้า เด็ดใบออกให้เหลือติดปลายยอดประมาณ 2-3 คู่ จากนั้นนำมาปักลงในพื้นที่ปลูกที่เตรียมไว้ ซึ่งควรเป็นพื้นที่ที่สามารถรับแสงได้ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน
สำหรับแปลงปลูกในแปลงแบบหว่านเมล็ดโดยตรงควรพรวนดินและใส่ปุ๋ยคอกพร้อมกำจัดวัชพืชออก แล้วหว่านเมล็ดลงโดยตรง รดน้ำเบา ๆ แล้วใช้พลาสติกคลุมรักษาความชื้น จากนั้นคอยดูแลให้มีความชื้นอยู่เสมอ เมล็ดจะเริ่มงอกประมาณ 7-14 วันเช่นกัน หรือหากจะปลูกในกระถางก็นำต้นที่มีใบจริง 2-4 คู่ แยกไปลงปลูกในกระถางได้ หรือจะปลูกแบบยกแปลงด้วยการทำร่องปลูกให้ถอนต้นที่มีใบจริงแล้วประมาณ 2-4 คู่เช่นเดียวกันนำมาปลูกโดยปลูกห่างกันประมาณ 30-45 เซนติเมตรต่อต้น
รดน้ำเช้าเย็น ต้นมินต์ต้องการความชุ่มชื้นแต่ต้องไม่มีน้ำท่วมขัง เป็นพืชที่ไม่มีโรคและแมลงรบกวน ปุ๋ยที่ใส่ควรใช้แต่ปุ๋ยหมักชีวภาพ เมื่ออายุได้ 75 วัน ก็จะออกดอกประมาณ 60% ของแปลงปลูกทั้งหมด ถึงช่วงนี้สามารถทำการเก็บเกี่ยวได้โดยเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าเป็นการดีต่อคุณภาพของเปปเปอร์มินต์ที่จะนำมาใช้ประโยชน์
เปปเปอร์มินต์มีสารออกฤทธิ์ทางยา โดยเฉพาะในน้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมา ชื่อว่าเมนธอลกับเมนโธน มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสได้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างชัดเจน มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง และต้านสารก่อภูมิแพ้บางตัวได้ด้วย และจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่าเปปเปอร์มินต์มีฤทธิ์คลายเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร มีฤทธิ์แก้ปวดและทำให้รู้สึกชาโดยออกฤทธิ์ทั้งที่ประสาทส่วนกลางและส่วนปลาย และช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย ส่วนในมนุษย์ เปปเปอร์
มินต์ออกฤทธิ์ที่ระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก น้ำมันเปปเปอร์มินต์และส่วนประกอบภายในหลายอย่างยังมีฤทธิ์แก้ปวดได้อีกด้วย ปัจจุบันจึงมีการนำเอาเปปเปอร์มินต์มาใช้เป็นส่วนผสมของอาหาร และเวชสำอางต่าง ๆ หลายรายการด้วยกัน ด้วยเปปเปอร์มินต์มีเมนทอล เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายเย็นลง จึงสามารถช่วยลดไข้เมื่อเป็นโรคหวัด
นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอาการอักเสบและความรู้สึกไม่สบายตัวได้เช่นกัน มีสรรพคุณช่วยขับลมออกจากร่างกาย อีกทั้งยังกระตุ้นการทำงานของน้ำดี ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น มีสารต่อต้านการอักเสบ จึงทำให้อาการมวนท้องกลับมาอยู่ในภาวะปกติได้ มีสารเมนทอลที่สามารถช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้เป็นอย่างดี มีวิตามินบี โพแทสเซียม และสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
และมีสารต่อต้านแบคทีเรียที่จะไปฆ่าบรรดาเชื้อโรคในช่องปากซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์และช่วยทำให้มีลมหายใจที่หอมสดชื่นขึ้นอีกด้วย.