บทจร บุรุษปราสาทฟ้า มือสมัครเล่น ข้อเขียนหลังมรณะกรรมของนักประพันธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่

แยกขาย บุรุษปราสาทฟ้า มือสมัครเล่น ข้อเขียนหลังมรณะกรรมของนักประพันธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่

- บุรุษปราสาทฟ้า The Man in the High Castle โดย ฟิลิป เค. ดิก หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 375 ขาย 318 บาท
- มือสมัครเล่น Beginners โดย เรย์มอนด์ คาร์เวอร์ หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 325 ขาย 276 บาท
- ข้อเขียนหลังมรณะกรรมของนักประพันธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ โดย โรแบร์ท มูซิล หนังสือมือหนึ่งไม่มีซีล มีจุดเหลืองสนิมกระดาษขึ้นนิดหน่อย ราคาปก 105 ขาย 95 บาท

มือสมัครเล่น

17 เรื่องสั้นของชีวิตคนเดินดินที่ไม่ได้สมบูรณ์พร้อม บอกเล่าด้วยภาษาเรียบตรงไร้การปรุงแต่งของนักเขียนผู้ธรรมดาสามัญ ต้นฉบับดั้งเดิมปราศจากการปรับแก้ของเรื่องรวมเรื่องสั้น What We Talk About When We Talk About Love ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับ อเลฆานโดร อินาร์ริตู นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ Birdman ในปี 2014

บุรุษปราสาทฟ้า
ปี 1962 กรุงซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐแปซิฟิกแห่งอเมริกา ตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นและนาซีเยอรมัน สองผู้คว้าชัยในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อสิบห้าปีก่อน นิปปอนและอารยันขึ้นเป็นใหญ่ กดขี่ข่มเหงยิวและคนอเมริกันพื้นเมืองผิวขาว
ที่ไหนสักแห่งในรัฐห่างไกล พ้นจากเงื้อมมือของสองขั้วอำนาจ บุรุษผู้อาศัยในปราสาทฟ้าได้เขียนหนังสือถึงโลกอีกโลกที่สัมพันธมิตรต่างหากเป็นฝ่ายชนะสงคราม ส่วนอักษะแพ้ราบคาบ ข้อใดกันแน่ที่เป็นเท็จจริง หรือว่าพหุภพจะมีอยู่โดยที่เรามิล่วงรู้
เมื่อสับสนหลงทาง ไม่ว่าใครก็หันไปเปิดคัมภีร์โบราณ อี้จิง อายุนับพันปีเพื่อแสวงหาคำตอบ

“ข้อเขียนหลังมรณกรรมของนักประพันธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่”
The Man Without Qualities นวนิยายหนาราวสองพันหน้าที่เขียนไม่เสร็จของเขามักได้รับการเชิดชูว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายสมัยใหม่ (modernist novel) ของศตวรรษที่ 20 ที่สำคัญที่สุดเล่มหนึ่ง และมีคุณค่าเทียบเท่างานเขียนระดับมาสเตอร์พีซของมาร์แซ็ล พรุสต์ และเจมส์ จอยซ์
“ข้อเขียนหลังมรณกรรมของนักประพันธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่” เป็นการรวมข้อเขียนคัดสรรจาก Posthumous Papers of a Living Author ซึ่งเป็นผลงานตีพิมพ์ชิ้นสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิตกระทันหันด้วยโรคเลือดออกในสมอง
ข้อเขียนชิ้นเล็กๆ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นโมเสกเหล่านี้ เมื่อประกอบกับการจัดหมวดหมู่และวัตถุประสงค์ของมูซิลเองที่เขียนไว้ในคำนำ ทำให้มันเป็นเสมือนการวาดภาพ self-portrait ของมูซิล อันเป็นภาพที่สะท้อนสไตล์การเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเขา—สายตาคมกริบและความชำนิชำนาญในการบรรยายภาพเหตุการณ์เล็กจิ๋ว สำนวนภาษาจิกกัดของคนปากคอเราะร้ายที่เฝ้าสังเกตความเป็นไปทางสังคมแบบเอาตัวเองออกห่าง คำถามทางปรัชญาน่าฉงนเกี่ยวกับการมีอยู่ของ “ตัวตน” ในโลกสมัยใหม่— หลังจากชิมลางข้อเขียนชิ้นเล็กๆ เหล่านี้แล้ว เราคาดหวังว่าอาจมีนักอ่านบางคนสนใจที่จะค้นหาต่อไปว่าโรแบร์ท มูซิล คือใครกันแน่ และงานเขียนชิ้นสำคัญกว่านี้ของเขานั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง