กระเจี๊ยบแดงพันธุ์ซูดาน เมล็ดพันธุ์กระเจี๊ยบ คัดพันธุ์เอง ดอกโตสีแดงเข้ม กินใบได้ ดอกสด-แห้ง ต้มทำน้ำกระเจี๊ยบ ทำไวน์ได้
เก็บในฤดูกาลล่าสุดไม่ค้างปี รับรองอัตราการงอก 80-95%
♥ เพาะเป็น ต้นอ่อนกระเจี๊ยบแดง ประกอบอาหารได้
ต้นอ่อน อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย เช่น วิตามิน C แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก
ทั้งมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยขับปัสสาวะ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว ทั้งยังมีสารแอนโทไซยานิน
ช่วยเสริมสร้างหลอดเลือดให้แข็งแรงอีกด้วย
กระเจี๊ยบแดงสามารถปลูกได้โดยใช้เมล็ดระยะปลูกที่เหมาะสม 100x75 เซนติเมตร
ผลิตกลีบแห้ง ประมาณ 180 – 200 กิโลกรัม / ไร่
ปลูกในกระถางได้ รดน้ำพอชุ่ม ไม่ชอบน้ำขัง อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 18-35 องศาเซลเซียส เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด
ดินที่เหมาะสมควรมีค่าความเป็นกรดด่าง ระหว่าง 6-6.8 (การปรับค่า pH ของดิน) ไม่ควรปลูกในดินที่มีน้ำขังแฉะหรือระบายน้ำยาก
นิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เจริญได้ดีในที่โล่งแจ้ง สภาพแสงแดดจัดเต็มวัน
-----------------------------
การปลูกเพื่อขายดอก
หยอดเมล็ดหลุมละ 3-5 เมล็ด ฤดูปลูกเดือนพฤษภาคม - มิถุนายนเป็นอย่างช้าเนื่องจากเป็นพืช
ไวต่อช่วงแสง จะออกดอกเมื่อวันสั้น คือ เริ่มออกดอกในเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีอายุประมาณ 120 วัน
และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนมกราคม
2.2การเตรียมดิน
- พรวนดินบริเวณที่จะปลูกให้ร่วน ถ้าดินดีอยู่แล้วไม่ต้องใส่ปุ๋ย แต่ถ้าจ้าเป็นให้ใส่ปุ๋ยคอกได้แต่ไม่มากนัก
2.3ระยะปลูก
- ระยะห่างระหว่างต้น 1 เมตร ระหว่างแถว 1-1.5 เมตร
2.4จ้านวนต้นต่อไร่
- ประมาณ 400 ต้น
3. การดูแลรักษา
3.1การใส่ปุ๋ย
- ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์ ในช่วงที่เริ่มเจริญเติบโต อายุ 10-15 วัน
และ 40-50 วัน ไม่จ้าเป็นต้องใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะถ้ามากเกินไปจะท้าให้
ใบและฝักโตเร็วเกินไป เป็นโรคง่าย
3.2การให้น้้า
- ระยะ 1-2 เดือน ควรให้น้้าสม่้าเสมอ หลังจากนั้นจะทนต่อความ
แห้งแล้งได้ดี
---------------------------------------------------------------------------------------------------
กระเจี๊ยบแดง ที่เรารู้จักกันดี มีถิ่นกำเนิดในประเทศซูดาน อินเดีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยในประเทศไทยมีแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา (ข้อมูลจาก medthai.com) กระเจี๊ยบแดง ปลูกง่าย รับประทานได้ ทั้งใบ ดอก และผล ที่หลายคนคุ้นเคยคงจะเป็นน้ำกระเจี๊ยบ ที่นำผลกระเจี๊ยบแดงมาต้ม เติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพิ่มรสชาติ เป็นเครื่องดื่มสีแดงสดใส รสเปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่น แก้อาการคอแห้ง กระหายน้ำ มีวิตามินซีสูง
- กระเจี๊ยบต้มน้ำตาลทรายแดง แช่ตู้เย็นไว้สัก5-7วันขี้นไปจะมีรสหวานซ่าเป็นไวน์กระเจี๊ยบ อร่อยมาก
------------------------------------------------------------
โดยการเก็บผลกระเจี๊ยบแดงแล้วกระทุ้งเอาแคปซูลที่มีเมล็ดอยู่ภายในออก
แล้วนำเอากลีบสดไปตากแห้งให้เวลา 5 – 7 วัน จนแห้งสนิทนำมาบรรจุถุงจำหน่ายต่อไป
ประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดงสามารถนำมาทำแยม กระเจี๊ยบแช่อิ่ม
หรือกลีบแห้ง นำมาต้มเป็นน้ำกระเจี๊ยบแดง มีสรรพคุณช่วยลดความดัน เป็นยาขับปัสสาวะ
** ต้มน้ำกระเจี๊ยบ + นำ้ตาลทรายแดง ใส่ขวดเก็บไว้ในตู็เย็นหากรับประทานไม่หมดค้างไว้สัก 1 สัปดาห์ จะเป็นไวน์ซ่าๆ ยังดื่มได้อยู่ค่ะ ไม่เสีย แต่อร่อยมาก♥
-----------------------------------
น้ำหนัก 200 กรัม 45 บาท
น้ำหนัก 500 กรัม 85 บาท
น้ำหนัก 1000 กรัม 165 บาท
